“ปวดหัว”อาจดูเป็นอาการคลาสสิค ที่ไม่ว่าใครก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วจนเริ่มประมาท ทั้งที่อาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณโรคร้าย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วันที่สดใส มักถูกทำลายให้หม่นหมอง ด้วยอาการปวดหัว อย่างไม่รู้สาเหตุ แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยการหายาแก้ปวดมาบรรเทาอาการ หรือ ก้มหน้าอดทนต่อไป ลองสละเวลาสักนิดมา เช็คดูดีกว่าว่าอาการปวดหัวที่เป็นอยู่บ่อยๆ กำลังบอกอะไรคุณ ไม่แน่ว่าความใส่ใจเพียงน้อยนิด อาจทำให้คุณค้นพบโรคร้ายที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้
1. ปวดหัวไมเกรน ปวดตุบๆ ปวดแค่ข้างใดข้างหนึ่ง และยิ่งปวดมากขึ้นเมื่อเจอแสงจ้า เสียงดัง หรือลุกเดิน อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการเหล่านี้จะเกิดนาน 4-72 ชั่วโมง และดีขึ้นเมื่อพักผ่อนอยู่นิ่งๆ ในห้องที่มืดและเย็น
2. ปวดหัวจากความเครียด หากรู้สึกว่าปวดตื้อๆ ปวดแบบบีบๆ รัดๆ ปวดเป็นวงกว้างบนศีรษะหรือปวดเบ้าตาร่วมด้วย โดยอาจร้าวลงมาที่ท้ายทอยและมักเกิดช่วงบ่ายหรือเย็น นั่นแสดงว่าถึงเวลาต้องพักผ่อนเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่กำลังตึงตัวจากความเครียดแล้วล่ะ
3. ปวดหัว..เพราะโรคหลอดเลือดสมอง เมื่ออาการปวดหัวเพิ่มระดับความรุนแรงแบบเฉียบพลันทันทีทันใด ประกอบกับมีอาการปากเบี้ยว พูดไม่ได้ เดินเซ แขนขาอ่อนแรง มองไม่เห็น..และซึมลง ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะอาจหมดสติและเสียชีวิตได้
4. ปวดหัว..เพราะเนื้องอกในสมอง ชอบปวดหัวบ่อยๆ และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คลื่นไส้อาเจียน พูดจาติดขัด เริ่มมีปัญหาเรื่องการมองเห็นหรือการเดิน รวมไปถึงการมีอาการชักทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่อาจเป็นสัญญาณบอกถึง "เนื้องอกในสมอง"
5. ปวดหัวคลัสเตอร์ อาการคือปวดแบบข้างเดียว แต่มีระดับความรุนแรงกว่าการปวดไมเกรน อาจมีอาการปวดเบ้าตา ตาแดง น้ำตาไหล รวมไปถึงการมีเหงื่อออกบริเวณศีรษะข้างที่ปวดร่วมด้วย ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นไม่นาน ราวๆ 5 นาที ถึง 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หากเช็คอาการปวดหัวเบื้องต้นแล้วยังไม่มั่นใจว่าจะใช่สัญญาณของโรคร้ายหรือไม่ ควรหาเวลามาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ไม่เพียงแค่เพื่อความสบายใจ แต่ยังเป็นการเรียกคืนคุณภาพชีวิตที่ดีของคุณให้กลับมาอีกด้วย.