ออกกำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับผู้สูงวัย | Pattaya City Hospital | โรงพยาบาลเมืองพัทยา เราพร้อมดูแลคุณ

Health Article

บทความเรื่องสุขภาพ

ออกกำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับผู้สูงวัย

Date : 12 September 2017

ข้อมูลจาก : หนังสืออายุเป็นเพียงตัวเลข ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.
ภาพจาก : pixabay.com

การออกกำลังกายหรือการยืดเหยียดของผู้สูงอายุนั้นหากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการออกกำลังกายที่เหมาะกับช่วงอายุและเหมาะกับกายภาพของผู้สูงอายุด้วยค่ะ

การเดินหรือวิ่งช้าๆ

เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายใหม่ๆ ควรเริ่มด้วยการเดินช้าๆ ก่อนสัก 5 นาที แล้วจึงค่อยเพิ่มความเร็วขึ้น และช่วงแรกๆ ไม่ควรเดินไกลนัก แต่เมื่อฝึกจนเกิดความอดทน แล้วจึงค่อยเพิ่มเวลาและความเร็วขึ้นตามหลัก และสิ่งสำคัญคือการเลือกรองเท้าที่เหมาะสมและคุณภาพดี

บริหารร่างกาย

เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งที่สามารถทำในบ้านได้ อีกทั้งยังทำให้เกิดการออกกำลังกายทุกสัดส่วน พร้อมทั้งฝึกความอดทน การทรงตัว และการยืดหยุ่นของข้อต่อต่างๆ ได้ดี

ว่ายน้ำหรือเดินในน้ำ

เหมาะกับผู้ที่ข้อเข่าเสื่อม เพราะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อทุกส่วนเช่นกัน และน้ำจะช่วยพยุงน้ำหนัก ทำให้แรงกดลงบนเข่าลดลง แต่เพิ่มแรงต้านในการเดินทำให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงมากขึ้น ทว่าการว่ายน้ำเพียงอย่างเดียวไม่เหมาะกับผู้ที่มีสภาพร่างกายดี เพราะร่างกายไม่ได้รับน้ำหนักเลยจึงไม่ได้ช่วยในการเพิ่มมวลกระดูก

ขี่จักรยาน

นอกจากจะเกิดประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังได้รับความเพลิดเพลิน แต่เป็นกิจกรรมที่ต้องไปเป็นหมู่คณะจึงจะสนุก

รำมวยจีน

เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงวัยที่ได้ทั้งฝึกความอดทน ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการทรงตัวของร่างกาย รวมถึงช่วยป้องกัน รักษา ฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจด้วย

โยคะ

โดยการฝึกออกกำลังกายด้วยโยคะสำหรับผู้สูงอายุที่สามารถทำให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

เคล็ดลับการออกกำลังกายให้ได้ผลดีต่อผู้สูงวัย

1.เริ่มต้นออกกำลังกายจากช้าไปหาเร็ว เช่น เดินช้า แล้วค่อยเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ

2.สวมรองเท้ากีฬาพร้อมถุงเท้าที่เดินได้อย่างสบาย ไม่คับ และไม่หลวมเกินไป

3.เลือกกิจกรรมที่เหมาะกับสภาพร่างกาย เช่น ถ้ามีอาการปวดข้อหรือปวดหลัง ควรเลือกกิจกรรมในน้ำ เช่น เดินในน้ำหรือนั่งเตะขาในน้ำ

4.เลือกกิจกรรมที่ทำติดต่อได้อย่างสม่ำเสมอตลอดเวลา 10-15 นาที ที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยพอประมาณ

5.เลือกกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเพิ่มความเครียด

6.เมื่อรู้สึกเวียนศีรษะ ตามัว หูอื้อ หรือเจ็บหน้าอก ต้องหยุดออกกำลังกายทันที

7.ควรมีเพื่อนหรือคนในครอบครัวร่วมออกกำลังกายด้วยอย่างน้อย 1 คน

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

1.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เคลื่อนที่เร็ว หรือย่อ-ยืดหัวเข่าอย่างเร็ว หรือบิด-หมุนลำตัวอย่างเร็ว เช่น ฟุตบอล วิ่งทางชัน เป็นต้น

2.หลีกเลี่ยงการยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ต้องก้มนานๆ หรือยกแขนขาที่เป็นมุมกว้างเกินความสามารถ

3.งดเลือกกิจกรรมที่ต้องมีการกลั้นลมหายใจไว้นานๆ เช่น ยกดัมเบลที่มีน้ำหนักมาก