อาหารเสริมสำหรับเด็ก | Pattaya City Hospital | โรงพยาบาลเมืองพัทยา เราพร้อมดูแลคุณ

Health Article

บทความเรื่องสุขภาพ

อาหารเสริมสำหรับเด็ก

Date : 29 August 2016

ข้อมูลจาก : รศ.นพ.วีระพงษ์ ฉัตรานนท์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ภาพจาก : pixabay.com

การให้อาหารเสริมนั้น เรามีจุดมุ่งหมายที่ชดเชยพลังงาน และสารอาหารที่จำเป็น ที่อาจจะพร่องไป และเพื่อให้เด็กได้คุ้นเคยกับอาหาร ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปให้เหมาะสมตามวัย อันจะเป็นการฝึกให้เด็กมีนิสัยการกินที่ดีและถูกต้องด้วย สำหรับอาหารเสริมในเด็กภายในอายุ 1 ปีนั้น จะมีดังต่อไปนี้ คือ

เมื่อเด็กอายุครบ 3 เดือนแล้ว ควรเริ่มหัดให้เขากินข้าวบดใส่น้ำแกงจืด ผลัดเปลี่ยนกับกล้วยสุกครูด

เด็กอายุครบ 4 เดือนให้ข้าวบดกับไข่แดงต้มสุกหรือข้าวบดกับตับ หรือสลับกับถั่วต้มเปื่อยก็ได้ เมื่ออายุครบ 5 เดือน ก็ควรจะเริ่มสลับด้วยเนื้อปลา และก็ควรจะเติมด้วยฟักทอง หรือผักบดเข้าไปด้วย

เมื่ออายุครบ 6 เดือน อาหารดังกล่าวนี้ ก็จะกลายเป็นอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ และให้กล้วยหรือมะละกอสุกเป็นอาหารว่างอีก 1 มื้อ ส่วนนมแม่ก็ควรจะลดลงเหลือวันละ 4มื้อ เมื่ออายุครบ 7 เดือนแล้ว เราสามารถเริ่มเนื้อสัตว์อื่น บดผสมข้าว หรืออาจจะสลับกับตับและปลาได้ และในระยะนี้ เราก็อาจจะให้ไข่ได้ทั้งฟอง ทั้งไข่ขาวไข่แดง

เมื่ออายุครบ 8-9 เดือน อาหารหลักก็จะเป็น 2 มื้อแล้ว ทำให้นมลดลง เหลือประมาณ 3 มื้อ อายุครบ 10-12 เดือน อาหารมื้อหลักก็จะเพิ่มเป็น 3 มื้อโดยส่วนนมนั้น ก็จะลดลงเหลือเพียง 2 มื้อ นั่นก็เป็นเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และก็อาหารเสริม ตามวัยที่เหมาะสม สำหรับที่จะเลี้ยงลูกท่านผู้ฟังให้มีการเจริญเติบโต มีสุขภาพแข็งแรง มีทั้งร่างกายและสมอง และสุขภาพจิตที่ดีด้วย 
     
แม้อาหารจะเป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงดูเด็กก็จริง แต่ก็ยังมีสิ่งอื่นอีก ที่มีความสำคัญไม่น้อย และที่จะช่วยเกื้อหนุนให้เด็กของเราเจริญเติบโตได้ดี สิ่งถัดไปในการเลี้ยงดูเด็กที่ควรกระทำก็คือ การพาเด็กไปรับการตรวจสุขภาพจากแพทย์ และรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ตามกำหนดที่แพทย์นัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดโรค ที่สามารถจะป้องกันไว้ก่อนได้ และเมื่อเด็กเจริญเติบโตขึ้น ความอบอุ่นจากพ่อแม่ทางบ้าน ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเด็กด้วย

และเมื่อถึงวัยอันควรก็ส่งเด็กเข้าโรงเรียน เพื่อศึกษาหาความรู้และอบรมสั่งสอนให้มีระเบียบวินัยและเป็นคนดี แต่ไม่ควรเร่งให้เด็กเข้าโรงเรียน ก่อนที่เด็กจะพร้อม นอกจากนี้การออกกำลังกาย หรือพลศึกษา ก็เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับสุขภาพทางร่างกาย และจิตใจของเด็กด้วย ท่านผู้ฟังครับ การเคี่ยวเข็ญให้เด็กเรียนมากเกินไป โดยมีการพักผ่อนออกกำลังกายน้อยหรือไม่มีเลย จะมีผลเสียถึงสุขภาพทางร่างกายและจิตใจและเด็กอย่างมากด้วย ปัญหาเด็กเกเรหรือติดยาเสพติด ที่มีปัญหามากในปัจจุบัน อาจจะแก้ไขได้ทางหนึ่งโดยการจัดให้มีสนามเด็กเล่น และสนามกีฬากระจายไป ให้เพียงพอที่จะให้เด็กของเราใช้เวลาว่างในการออกกำลังกาย และเล่นกีฬาแทนที่จะไปมั่วสุมในที่อันไม่ควร

ดังนั้น ถ้าจะเลี้ยงเด็กของท่าน ให้เจริญเติบโตดีต่อไปก็ควรจะให้อาหารดี ซึ่งได้แก่ นมแม่ และอาหารเสริมตามวัย พาไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีนป้องกันโรคตามกำหนด ให้ความอบอุ่นทางจิตใจ ให้การศึกษา และให้ออกกำลังกายให้พอเหมาะ