Slow Life อย่างไรให้มีความสุข

ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ภาพจาก : pixabay.com

ยิ่งเห็นตัวอย่างของผู้ป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่มีสาเหตุต่างๆนานา บ้างเกิดจากการ ทำงาน, ความเครียด, สภาพอากาศที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว, อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน และแม้แต่ความผิดปกติที่เกิดจากระบบการทำงานภายในร่างกายของมนุษย์เองที่เรรวนซวนเซขึ้นมา ยิ่งทำให้เห็นสัจธรรมว่า ชีวิตมนุษย์นั้นมีความไม่แน่นอนสูงมาก เพราะไม่มีใครทราบว่าแต่ละคนจะมีเวลาอยู่ในโลกนี้นานแค่ไหน

จึงทำให้หลายท่านเริ่มรู้สึกว่า การใช้ชีวิตอย่างพอดิบพอดี ไม่ต้องคร่ำเคร่งทำงานมากเกินไป และมีเวลาพักผ่อน ได้ไปใช้ชีวิตส่วนตัว, มีเวลากับครอบครัวรวมทั้งได้ไปออกกำลังกายบ้าง เป็นหนทางแห่งความสุขเบื้องต้นที่หากใครทำได้ก็เยี่ยมไปเลย

แต่ในความเป็นจริง ถ้าท่านใดยังต้องรีบเร่งทำมาหากินเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวก็ทำไปเถิด เพราะหลีกเลี่ยงการหารายได้เข้าบ้านไม่ได้ ทว่าสักวันพอไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว จึงค่อยมองหาความสุขแบบค่อยเป็นค่อยไปก็ยังไม่สาย มีหลายท่านที่ถึงวัยซึ่งสามารถใช้ชีวิตสบายๆ ได้แล้วดูมีความสุขน่ายินดีจริงๆ

แนวโน้มของคนเราจึงอยากมีชีวิตเรียบง่ายและมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น งั้นมาดูกันว่า การมีชีวิตอย่างเป็นสุขแบบง่ายๆนั้น มีความหมายในทางที่ดีและจะทำอย่างไรได้บ้าง? เพราะใครไม่อยากมีชีวิตสโลว์ดาวน์และสโลว์ไลฟ์บ้าง มาเริ่มจาก

1.แค่โฟกัสแต่กับสิ่งที่มีประโยชน์กับตัวท่านเอง และถ้าอยากจะเผื่อแผ่สิ่งดีๆให้กับคนรอบข้างบ้างก็แจ๋วไปเลย ส่วนการเลือกแต่สิ่งที่มีประโยชน์กับตัวเองเป็นอย่างไรน้า

ตัวอย่างง่ายที่สุดเลยได้แก่ อาหารการกินนี่ไง กรุณาเลือกอาหารที่ไม่เป็นอันตรายกับร่างกายได้จะดีมาก แต่ก็อีก ถ้าบอกว่าอย่าทานของทอดของมัน ใครก็เตือนได้และพูดง่ายกว่าทำ ทว่า มีใครหลีกเลี่ยงกันได้อย่างจริงจังบ้างล่ะ เพราะตามตลาดและร้านอาหารมักมีของทอดและของปิ้งย่างเป็นเมนูหลัก จึงต้องใช้หลักผ่อนปรนกันไป ทานได้บ้าง แต่อย่าทานมาก และควรมั่นใจว่าของทอดที่รับประทานไม่ได้ทอดจากน้ำมันที่นำมาใช้ซ้ำๆก็แล้วกัน ขืนทอดจากน้ำมันที่เก่าก็อันตรายน้อ ควรหันไปทานผักผลไม้บ้าง

2.ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น ลดการใช้ถุงพลาสติก, การใช้โฟมใส่อาหาร, การปิดไฟที่ไม่ใช้, ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน, ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง ทำได้เล็กๆน้อยๆก็ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนแล้ว

3.เลือกดื่มน้ำสะอาด อย่าไปหยอดเหรียญกดน้ำจากตู้ที่วางตามฟุตปาทแล้วดื่มเลยบ่อยนัก เพื่อให้แน่ใจ ควรนำมาต้มหรือทำความสะอาดภาชนะที่มารองรับน้ำบ่อยๆ ส่วนการซื้อน้ำขวดดื่มก็เป็นอีกทางเลือก

4.อย่าอารมณ์เสีย /โกรธง่าย เพราะเป็นบ่อเกิดแห่งโรคภัย งั้นทำใจให้สบายไม่คิดมากกันเถอะ