ระวังโรคติดต่อบนเตียง จากสัตว์เลี้ยง | Pattaya City Hospital | โรงพยาบาลเมืองพัทยา เราพร้อมดูแลคุณ

Health Article

บทความเรื่องสุขภาพ

ระวังโรคติดต่อบนเตียง จากสัตว์เลี้ยง

Date : 13 September 2016

ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ภาพจาก :  www.pixabay.com

โรคอย่างว่านี้ ความจริงติดกันได้ทุกที่ ในสนามหญ้า กลางดิน กลางทราย ในห้อง นอกห้อง แต่บนเตียงค่อนข้างจะใกล้ชิด แน่นแฟ้น มากกว่า และที่สำคัญคือไม่เลือกเพศ แถมไม่เลือกวัย อายุ เด็ก แก่ ไม่สำคัญ แต่ที่อ่อนแออยู่แล้วอาจเป็นง่ายกว่า และรุนแรง งงแล้วใช่มั้ย โรคอย่างว่านี้

เป็นเรื่องจริงครับ ติดจากการนอนเตียงเดียวกัน จูบกับถูกเลียปาก หน้า แก้ม จากลูกรัก หรือน้องหมา น้องแมวของเรานี่เอง โรคจากน้องๆ เด็กๆแพร่มาสู่เราง่ายกว่าที่คิด ทั้งนี้ ขึ้นกับว่าเค้าไปซนแค่ไหน ออกไปเที่ยว วิ่งเล่นนอกบ้าน เล่นกับเพื่อนตัวอื่นๆ หรือแม้ไปคลุกขี้ฝุ่นในสนาม และเราดูแลแค่ไหน โดยที่เชื้ออาจติดตามเนื้อตามตัว ตามอุ้งเท้า ตามเล็บ โดยมาจากดิน น้ำ จากตัวอื่นๆ แม้กระทั่งที่ปลดปล่อยมาจากนกทั้งหลาย

เชื้อแบคทีเรียประดามีจากน้องๆเหล่านี้ ไม่ค่อยคุ้นหูหมอเราๆนัก แต่ทราบกันดีในเพื่อนหมอสัตวแพทย์ เชื้อในปากซึ่งไม่ทำอันตรายแก่น้องหมา แมว แต่หลุดมาให้เราได้ เช่น Pasteurella multocida Bartonella henselae Moraxella species เชื้อ Stahylococci และ Streptococci และเชื้อที่โตเจริญงอกงามโดยไม่ต้องการอากาศหายใจ นอกจากนั้น ที่มาจากดิน ฝุ่น น้ำ เช่น เชื้อฉี่หนู Leptospira ที่ความจริงมาจากฉี่หมา แมว วัว ควายได้ทั้งนั้น เชื้อ Listeria เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบซึ่งไม่ได้จำกัดที่ก้านสมองอย่างในตำราที่นักเรียนแพทย์ ท่องกัน และในคนถ้าเชื้อเข้าทางปากไม่ต้องมีท้องเสียทุกรายก็ได้ และเกิดฝีในสมองได้มาก และชอบคนอ่อนแอเป็นพิเศษ เหมือนกับเชื้อ Nocardia

นอกจากนั้น เช่น Francisella tularensis ที่น้องหมา แมวได้จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและจากนก เช่นเชื้อ Streptobacillus  moniliformis Erysipelothrix rhusiopathiae เชื้อ Coxiella burnetii และ F.tularensis ดังข้างต้น  เพื่อให้เห็นภาพชัด เชื้อ F.tularensis กระจัดกระจายอยู่ยั้งยืนยงในธรรมชาติ จากการที่มีสัตว์ที่สามารถให้เชื้อเข้าไปฝัง เพาะตัวได้โดยสัตว์นั้นๆยังสบาย วิ่งเล่นได้ ได้แก่ กระต่าย นกตระกูลไก่ฟ้า และปล่อยเชื้อออกมาในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ คนได้เชื้อไปจากดิน สูดหายใจเอาขี้ฝุ่นมีเชื้อเข้าไป เช่น เวลาตัดหญ้า สัตว์ที่ซ่องสุมเชื้อยังถ่ายทอดเชื้อให้เห็บ ริ้น ซึ่งวกมากัดพวกเดียวกันทำให้กระจายในหมู่สัตว์ด้วยกัน และมากัดคน กัดหมา แมว ทั้งนี้ หมา แมวได้จากน้ำ ขี้ดินที่ติดตามเนื้อตัวได้อยู่แล้วด้วย และคนยังได้จากการคลุกคลี ติดจากถูกเห็บ ริ้นกัด และสัมผัสกับเนื้อของสัตว์อมโรคเหล่านี้ เวลาชำแหละประกอบอาหาร

คนฆ่า ชำแหละ สัมผัสเนื้อที่มีเชื้อ และคนกินอาหารไม่สุก ยังได้ไวรัสพิษสุนัขบ้า ตัวอย่างเช่น วัวถูกหมาบ้ากัด วัวตาย โดยที่เชื้อระยะหลังจะแพร่ไปที่เนื้อ และอวัยวะภายในของวัว ไม่ไปเลือด เห็นกันบ่อยที่ต้องไล่ตามฉีดยาคนชำแหละ ปรุง กินดิบ เป็นหลายร้อยคนจากวัวบ้าตัวเดียว

กลับมาที่น้องหมา แมว ที่รายงานจริงๆเกิดโรคในคน จากการนอนห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยง จูบ กอด เลีย นอกจากเชื้อข้างต้นยังได้เชื้อกาฬโรค Chaga เชื้อแมวข่วน B.hensele pasteurellosis Staphylococcosis เชื้อหมาบ้าที่ว่าข้างต้น เชื้อพาราสิต toxocara giardia crytosporidia และโรคจากไรหมาที่ทำให้หมาคัน cheyletiellosis และตัวที่เริ่มเห็นหนาตา ทั้งที่ รพ.จุฬาฯ และรายงานจากต่างประเทศ คือ Capnocytophaga ทำให้เกิดติดเชื้อเลือดเป็นพิษ


นอกจากเกิดอาการติดเชื้อเฉียบพลันในคน เชื้ออาจเกิดอาการเอื่อยๆไปฝังตัวในลิ้นหัวใจ เกิดลิ้นหัวใจอักเสบ มีก้อนเชื้อในหัวใจหลุดลอยไปอุดตันเลือดสมอง และตามร่างกายในที่ต่างๆ เช่น จาก Coxiella หรือเมื่อเร็วๆนี้ที่โรงพยาบาล หายจากติดเชื้อในกระแสเลือด และหายจากปอดบวมทั้งสองข้างจากหนูกัด เมื่อรักษาจนไข้ลง ปอดบวมหาย จะกลับบ้านเกิดมีขาอ่อนแรง จากเชื้อเล็ดลอดเข้าไปที่กระดูก และหมอนรองกระดูกสันหลังแพร่ไปไขสันหลัง ตามเส้นเลือดแดง ดำ

ที่เผยแพร่เรื่องนี้ไม่ใช่ให้เลิกเลี้ยงน้องๆเด็กๆนะครับ หมอเองมีเด็กๆ 3 ตัว นอนด้วยกัน (ลูกเลี้ยงอีก 2) แต่การเลี้ยงต้องเอาใจใส่ ล้างตัว อุ้งเท้า เล็บ ปากให้สะอาด ฉีดวัคซีนตามกำหนด เหมือนเลี้ยงลูกคน ยังไงยังงั้นครับ