ข้อมูลจาก : รศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์ ภาควิชาสูติศาสตร์ – นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
แม้มะเร็งปากมดลูกจะป้องกันได้ตั้งแต่ก่อนติดเชื้อไวรัส HPV หรือสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง แต่เหตุใดหญิงไทยยังคงป่วย และเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ1
คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่งและมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในจำนวนนี้หญิงไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด และยังคงครองอันดับ 1 มาหลายสิบปีนั้น ก็เนื่องจากความละเลยและความเข้าใจผิดว่าตัวเองมิใช่กลุ่มเสี่ยง และระยะเริ่มต้นของมะเร็งนี้ไม่มีการผิดปกติจึงทำให้ผู้ป่วยมากกว่า80% มาพบแพทย์เมื่อมะเร็งลุกลามไปแล้ว ซึ่งหากตรวจพบความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกหรือมะเร็งระยะเริ่มแรก โอกาสหายขาดก็จะมีมากเกือบ 100%
มะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อฮิวแมนแพปปิลโลมาไวรัส หรือ เอชพีวี (HPV) สายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสายพันธุ์หลักที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกประมาณ 70% ซึ่งส่วนใหญ่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสม เช่น มีคู่นอนหลายคน ทำให้โอกาสติดเชื้อได้มากขึ้น หรือการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย รวมทั้งการสูบบุหรี่ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากติดเชื้อ HPV ชนิดก่อมะเร็ง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุปากมดลูก กลายเป็นระยะก่อนมะเร็งซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 ปี จึงจะกลายเป็นมะเร็ง จึงเป็นโอกาสดีที่จะตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง ถ้าตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะนี้ หรือพบระยะเริ่มแรกของมะเร็งก็สามารถรักษาหายได้ แถมค่าใช้จ่ายไม่แพงอย่างระยะมะเร็งลุกลาม ซึ่งรักษายาก มีผลข้างเคียงสูง ซ้ำค่าใช้จ่ายก็สูงด้วย โอกาสหายก็น้อยลงด้วย
การป้องกันสามารถทำได้ง่าย ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือ ตรวจแบบ Pap test หรือตรวจหา DNA ของเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งให้ผลการตรวจที่แม่นยำ และภายหลังจากที่ตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็ควรรับการตรวจเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ โดยสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรรับการตรวจปีละ 1 ครั้ง ส่วนผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ควรรับการตรวจเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป
อีกวิธีที่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV คือ การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ผลสูงถึง 70 % แต่ยังจำเป็นต้องตรวจคัดกรองร่วมด้วย โดยจะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม เข็มแรกและเข็มที่สอง ฉีดห่างกัน 1-2 เดือน และอีกเข็มในเดือนที่ 6