มะเร็งปากมดลูก.. ภัยเงียบของผู้หญิงที่สามารถป้องกันได้ | Pattaya City Hospital | โรงพยาบาลเมืองพัทยา เราพร้อมดูแลคุณ

ความรู้เรื่องโรค

มะเร็งปากมดลูก.. ภัยเงียบของผู้หญิงที่สามารถป้องกันได้

Date : 25 August 2017

“มะเร็งปากมดลูก”(Cervical Cancer)หรือเชื้อไวรัส “เอชพีวี”(HPV)โดยเฉพาะบริเวณปากมดลูกพบว่าประมาณร้อยละ 99.7 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก จะตรวจพบไวรัสชนิดนี้ ซึ่งติดต่อทางผ่านเพศสัมพันธ์ และจะอยู่ในอวัยวะสืบพันธุ์ได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย

เชื้อไวรัส “เอชพีวี” (HPV) มีอยู่มากกว่า 200 สายพันธุ์ และมีประมาณ 30-40 สายพันธุ์อยู่บริเวณอวัยวะสืบพันธ์และทวารหนัก และมีประมาณ 20 สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ โดยเมื่อติดเชื้อ HPV แล้วร้อยละ 70-90 จะหายไปเอง เพียงแค่ร้อยละ 10-30 เท่านั้นที่จะติดอยู่ที่ปากมดลูก และเมื่อมีการติดเชื้อนานๆ จะทำให้เนื้อเยื่อหรือเซลของปากมดลูกผิดปกติ มีการเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์จนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด ซึ่งหากมีเพศสัมพันธ์เร็ว ก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น จึงพบผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกในอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ

อาการและอาการแสดงของมะเร็งปากมดลูก มีดังนี้

  1. มะเร็งปากมดลูกมักไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน อาการที่ปรากฏจะมากหรือน้อยขึ้นกับระยะของมะเร็ง อาการที่พบได้อาจมีดังนี้
  2. อาการเลือดออกทางช่องคลอด มีอาการที่พบได้มากที่สุด  อาจมีลักษณะดังนี้
  • เลือดออกกะปริดกะปรอย
  • เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  • ตกขาวปนเลือด
  • เลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน
  1. อาการในระยะหลังเมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้น ได้แก่
  • ขาบวม
  • ปวดหลังรุนแรง ปวดก้นกบ และต้นขา
  • ปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
  • ปวดท้องน้อย

การป้องกันมะเร็งปากมดลูก มีดังนี้

  1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก
  2. ให้ความสำคัญในการตรวจค้นหามะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรก เช่น การตรวจแป๊ปเสมียร์ (Pap Smear) หรือการตรวจตินเพร็พ (Thin Prep) เป็นต้น รวมทั้งการตรวจภายใน (Pelvic หรือ Gynecologic examination)
  3. การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลม่าหรือไวรัสเอชพีวี เป็นอีกหนทางหนึ่งในการป้องกันได้ถึงร้อยละ 70  การฉีดวัคซีนจะได้ผลดีในกลุ่มก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนไม่สามารถทดแทนการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกได้
  4. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย
  5. หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
  6. หลีกเลี่ยงการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  7. หากมีอาการผิดปกติ คือ ตกขาวมากมีกลิ่นเหม็น มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ เป็นเริม หูด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทุกครั้ง
  8. หากสามีเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น กามโรค หนองใน เป็นต้น ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา
  9. คุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัย
  10. ลด ละ และเลิกการสูบบุหรี่