ข้อมูลจาก : ศ.นพ.พิสิฏฐ์ เลิศวานิช ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัดคณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาล
ภาพจาก : pixabay.com
ปัจจุบันการศึกษาหลายแห่งพบว่า การ “เดิน” เป็นการออกกำลังกาย ที่สามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามกันครับ
“การเดิน” เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ที่ทำได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุก วัย แม้ในผู้สูงอายุ และยังทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณบ้าน หรือในสวนสาธารณะ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันมาก การเดินเพื่อสุขภาพที่ดี ต้องมีการเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เริ่มด้วย
1. อบอุ่นร่างกาย ขั้นตอนนี้สำคัญมาก โดยยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้ร่างกายรับรู้ถึงการเตรียมพร้อมกับการทำงานของระบบต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น เอ็นอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เป็นต้น
2. เดินให้ถูกต้อง “ควรเดินเร็วๆ ก้าวเท้าถี่ๆ” มากกว่าภาวะปกติในชีวิตประจำวัน เทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย โดยเฉพาะระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานเพิ่มขึ้น และมีการใช้พลังงานมากขึ้น บวกกับ “เดินติดต่อกัน 20 - 30 นาทีขึ้นไป” ที่สำคัญต้องทำอย่างสม่ำเสมอ 3 - 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ดีกว่าทำสัปดาห์ละครั้งสองครั้งแต่หักโหม และขณะเดินไม่ควรกลั้นหายใจหรือสูดลมหายใจอย่างแรง ควรหายใจเข้าและออกยาว ๆ เพื่อช่วยระบบการหายใจของร่างกาย มีข้อควรระวังคือ ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองมีอาการข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ หัวใจเต้นเร็วมากจนรู้สึกเหนื่อย หายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค หรือเหนื่อยจนเหมือนจะเป็นลม แสดงว่าระดับการออกกำลังกายนั้นมากเกินไป และในครั้งต่อไป ขอให้ลดระดับการเดินลงให้เหมาะสมกับสภาพของร่างกาย โดยอาจลดความเร็ว หรือลดเวลาในการเดินลง
3. ก่อนหยุดเดิน ควรผ่อนคลาย คือเดินช้าลง และยืดเส้นยืดสายอีกครั้ง เพื่อให้ระบบต่างๆ ของร่างกายลดการทำงานลง และกลับคืนสู่ภาวะปกติ รวมทั้งควรดื่มน้ำให้เพียงพอภายหลังการออกกำลังกาย
การเดินเพื่อสุขภาพที่ดี นอกจากช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี สามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้น ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกบาง รวมทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินซึ่งไม่ปรารถนา คิดเป็นตัวเลขเผาผลาญแล้ว อยู่ประมาณ 60 แคลอรี ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร