"ไข้ทับระดู" ภัยอันตรายสำหรับคุณผู้หญิง

เมื่อพูดถึงไข้ทับระดู แน่นอนค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าคุณผู้หญิงทุกคนรู้จักกับมันเป็นอย่างดีค่ะ มันมักมากับเจ้าน้องไฟแดงของเรา ซึ่งไม่ธรรมดานะค่ะ หากมีอาการอื่นแทรกซ้อนละก็ เจ้าไข้นี่ ทำเอาคุณผู้หญิงถึงกับเสียชีวิตเลยค่ะ ซึ่งคุณทราบหรือไม่ค่ะ ว่า เมื่อก่อน หากพูดถึงไข้ทับระดูแล้ว จริงๆ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการมีเพศสัมพันธ์แล้วได้รับเชื้อกามโรคจากคู่นอนหรือสามี แต่ในปัจจุบันเรานึกว่ามันเป็นเพียงอาการไม่สบายในขณะที่เรามีประจำเดือน บางคนทานยาแล้ว อาการดีขึ้น แต่บางคนทานแล้วไม่ดีขึ้น เรามาหาคำตอบกันค่ะ

รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นารีเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า ไข้ทับระดูสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ได้แก่

1. ไข้ทับระดูที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง โดยจะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดภายหลังทานยาแก้ปวดลดไข้ก็หายได้ สาวๆจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงที่เกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือนซึ่งบางครั้งอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือปวดประจำเดือนร่วมด้วย

2. ส่วนไข้ทับฤดูที่มีสภาวะโรคแอบแฝง จะมีอาการไข้ขึ้นสูงหนาวสั่น ปวดหลัง คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องน้อย มีตกขาวปนหนองออกมาระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งบางครั้งประจำเดือนอาจมีมากผิดปกติและมีกลิ่นเหม็น หากมีอาการจะรุนแรงมากขึ้นในทุกๆรอบเดือนนั่นเป็นสัญญาณของ “โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบเรื้อรัง” เนื่องจากขณะมีประจำเดือนร่างกาย มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ ทำให้ระบบร่างกายเสียสมดุล มีภูมิต้านทานลดน้อยลงจึงมีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อง่ายกว่าปกติ อีกทั้งมีโอกาสติดเชื้อในมดลูก และปีกมดลูกได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

ส่วนระดับความรุนแรงของเจ้าไข้ทับระดูนี้ นั้น แน่นอนค่ะ ว่ายิ่งอายุมาก ภูมิคุ้มกันอะไรต่างๆก็จะมีน้อยลงค่ะ ไม่เหมือนพวกหนูสาวๆที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ค่ะ แต่โอกาสเสี่ยงนั้น จะอยู่ที่สาวๆวัยเจริญพันธุ์มากกว่าค่ะ เพราะเนื่องจากเด็กสมัยนี้มักจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่าค่ะ

รู้แล้วหรือยังค่ะ ว่าเจ้าไข้ทับระดูนี้ไม่ธรรมดาเอาซะเลยค่ะ อย่างไรก็ตามคุณหนูทั้งหลาย อย่าเพิ่งริที่จะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรนะค่ะ โอกาสเสี่ยงสูงมากๆ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ควรจะทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้ดีด้วย เพราะเชื้อแบคทีเรียอาจเข้าไปสะสม อาจเกิดการติดเชื้อได้เช่นกันค่ะและที่สำคัญพยายามพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ ลดกิจกรรมประจำวันลง ทานอาหารที่มีประโยชน์ย่อยง่าย เช่น พืชผักพลไม้ต่าง ๆ งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ละเว้นการสูบบุหรี่ และเปลี่ยนผ้าอนามัยไม่ต่ำกว่า 2 ชิ้นในหนึ่งวันเพื่อความสะอาดของสุขอนามัยส่วนตัวอีกด้วยและที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ตอนมีประจำเดือนด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: เว็บไซต์ thaihealth
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: เว็บไซต์ lauriermybrand