มะเร็งของลำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย ยิ่งอายุมากขึ้น อุบัติการณ์ก็มากขึ้นตามไปด้วย สาเหตุเข้าใจว่าเกิดจาก การรับประทานอาหารเนื้อสัตว์มากเกินไป การมีติ่งเนื้องอกชนิดธรรมดาที่ผนังลำไส้ ซึ่งภายหลังจะกลายเป็นมะเร็งของลำไส้ได้ หรือการมีประวัติของมะเร็งลำไส้ในครอบครัว จะมีแนวโน้มเป็นโรคนี้สูงกว่าคนปกติถึง 3 เท่า
อาการของผู้ป่วยมะเร็งทวารหนัก คือ ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด ปวดทวารหนักเวลาถ่ายอุจจาระ ลำอุจจาระเล็กลง ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการสำคัญ คือ ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ท้องผูกสลับท้องเดิน ถ้าก้อนมะเร็งโตขึ้นจนอุดตันลำไส้ จะมีอาการของลำไส้อุดตัน คือปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน ไม่ถ่ายอุจจาระและไม่ผายลม ในผู้ป่วยบางรายนั้นจะมาพบแพทย์ด้วยเรื่องมีก้อนในท้อง การตรวจทางทวารหนักจะบอกว่ามีเนื้องอกในทวารหนักได้ การตรวจอุจจาระหาเม็ดเลือดแดง การส่องกล้องตรวจทวารหนักและลำไส้ใหญ่ จะบอกถึงพยาธิสภาพที่มีอยู่ได้ จากนั้นแพทย์จะตัดชิ้นเนื้อตรวจทางพยาธิวิทยา การตรวจด้วยการเอกซเรย์สวนแป้งทางทวารหนัก ก็สามารถบอกถึงพยาธิสภาพในลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ เมื่อได้ผลการตรวจว่าเป็นมะเร็งของทวารหนัก-ลำไส้ใหญ่ ศัลยแพทย์จะผ่าตัดเปิดช่องท้อง แล้วตัดเนื้อมะเร็งของลำไส้และทวารหนักออก จากนั้นจะทำการต่อลำไส้ใหม่ ในกรณีที่มะเร็งใกล้ปากรูทวารหนัก จะผ่าตัดมะเร็งและทวารหนักออกทิ้งไป แล้วนำลำไส้ส่วนที่เหลือมาไว้ที่ผนังหน้า
ในภายหลังการผ่าตัดรักษาเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะต้องมารับการรักษาต่อด้วยเคมีบำบัด มีบางรายต้องมารับการรักษาด้วยการฉายแสงต่ออีก เพื่อหวังผลการรักษาให้ได้ผลดีที่สุด ในผู้ป่วยที่โรคลุกลามไปมากแล้ว ก็จะให้การรักษาแบบประคับประคองเท่านั้น อย่างไรก็ดี มะเร็งของทวารหนักและลำไส้ใหญ่สามารถตรวจได้ด้วยการตรวจหาเม็ดเลือดแดงในอุจจาระและการส่องกล้องตรวจทางทวารหนัก หากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งก็สามารถให้การรักษาได้ผลดีจนโรคหายขาดได้
ที่มา ศ.คลินิก นพ.วิรุณ บุญนุช ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล