ข้อมูลจาก : รศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
การสังเกตเห็นหรือคลำได้ก้อนโตที่ต่อมไทรอยด์เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยพอสมควรราวร้อยละ 5 ของประชากรทั่วไป โดยมักพบในสุภาพสตรีวัยกลางคน ก้อนที่พบส่วนใหญ่มักไม่มีความร้ายแรง โดยเกิดจากสาเหตุต่างๆ ได้ดังนี้
1. เกิดจากเนื้อไทรอยด์โตผิดรูปโดยไม่ทราบเหตุ (nodular goiter)
2. เกิดจากการอักเสบภายในต่อมไทรอยด์
3. เกิดจากเนื้องอกต่อมไทรอยด์ชนิดไม่ร้าย
4. มีเพียงส่วนน้อยราวร้อยละ 5 เกิดจากมะเร็งของต่อมไทรอยด์
มะเร็งของต่อมไทรอยด์ส่วนใหญ่มักมีอาการไม่รุนแรง อาการและอาการแสดงทั่วไปไม่มีความแตกต่างกันชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วยที่มีก้อนที่ต่อมไทรอยด์จากสาเหตุต่างๆ การวินิจฉัยโรคจึงมีความสำคัญที่ต้องแยกกลุ่มผู้ป่วยที่อาจเป็นมะเร็งของต่อมไทรอยด์ออกจากกลุ่มผู้ป่วยอื่นๆ ให้ได้เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้อง โดยอาจใช้แนวทางดังต่อไปนี้
1. การซักประวัติและการตรวจร่างกายโดยละเอียด
2. การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อดูระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
3. การสุ่มเจาะเนื้อเยื่อจากต่อมไทรอยด์ไปตรวจ
4. การตรวจโดยใช้อัลตราซาวด์หรือเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ในบางกรณี
กลุ่มผู้ป่วยบางกลุ่มอาจมีโอกาสเป็นมะเร็งสูงจึงควรพบแพทย์โดยเร่งด่วน ได้แก่
1. มีปัญหาเสียงแหบ หายใจได้ไม่สะดวก
2. มีปัญหากลืนอาหารลำบากและ/หรือกินอาหารสำลัก
3. ก้อนโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. คลำได้ก้อนอื่นโตที่ด้านข้างลำคอ
5. มีประวัติมะเร็งในครอบครัว หรือเคยได้รับการฉายแสงมาก่อน
6. อายุน้อยกว่า 15 ปี หรือมากกว่า 45 ปี
แนวทางการรักษา
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักตรวจพบก้อนที่ต่อมไทรอยด์โตเพียงอย่างเดียว โดยไม่พบอาการอื่น ผลการตรวจระดับฮอร์โมนมักพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวทางการรักษามีได้หลายแนวทางดังนี้คือ
1. ให้ยาเสริมฮอร์โมนไทรอยด์ในกรณีที่ผลการสุ่มเจาะเนื้อเยื่อไม่พบเนื้อเยื่อผิดปรกติ
2. ให้ยาต้านการอักเสบและเฝ้าระวังความผิดปรกติของระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในกรณีที่ผลการสุ่มเจาะเนื้อเยื่อพบมีการอักเสบ
3. ทำการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกบางส่วนหรือออกทั้งหมด ในกรณีที่ผลการสุ่มเจาะเนื้อเยื่อพบเนื้อเยื่อมะเร็ง
4. การเฝ้าดูอาการและทำการสุ่มเจาะเนื้อเยื่อเป็นระยะๆ ในกรณีที่ผลการสุ่มเจาะเนื้อเยื่อไม่พบเนื้อเยื่อผิดปรกติและไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ
แนวทางการรักษาก้อนที่ต่อมไทรอยด์มีหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน การเลือกวิธีรักษาจึงขึ้นอยู่กับการปรึกษาหารือระหว่างแพทย์และผู้ป่วยเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยในแต่ละราย