ข้อมูลจาก : รศ.พญ.ปรียานุช แย้มวงษ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ภาพจาก : pixabay.คอม
โดยปกติร่างกายต้องการสารอาหารครบถ้วน เพื่อนำไปเสริมสร้างและซ่อมแซม ส่วนต่างๆ ที่สึกหรอทุกวันอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ อาหารจำพวกโปรตีนซึ่งมีมาก ในเนื้อสัตว์ทุกชนิดแต่สำหรับเนื้อปลา นอกจากจะมีราคาถูกหาได้ง่ายตามธรรมชาติ แล้ว เนื้อปลาทุกชนิดยังมีคุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ
ในเนื้อปลามีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายสูง โดยเฉพาะไลซีน และทรีโอนีน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก สารอาหารดังกล่าวจะพบมากใน ปลาทู ซึ่งถ้าคิดเป็นหน่วยจะมีสูงถึง 92 หน่วย เมื่อเทียบกับน้ำนมวัวซึ่งมี 91 หน่วย เนื้อวัว 80 หน่วย และถั่วเหลือง 63 หน่วย
นอกจากนี้เนื้อปลายังมีกรดไลโนเลอิค ซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับโคเลสเตอรอล และ ไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด และที่สำคัญคือ กรดโดโคซาเฮ็กชิโนอิค (D.H.A) ซึ่ง เป็นส่วนประกอบของเซลล์สมอง นักวิจัยพบว่าครึ่งหนึ่งของ D.H.A. ในสมองเด็กได้ รับมา แต่แรกเกิด ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะได้รับมาเมื่ออายุขวบปีแรก สำหรับเนื้อปลาที่มี D.H.A. มากได้แก่ ปลาสวาย ปลาทู ปลาช่อน ปลาหมึกกล้วย และปลาไส้ตัน ผู้ที่กิน ไข่ไก่ก็จะได้รับ D.H.A. เช่นกัน แต่ในจำนวนน้อยกว่า ตรงข้ามกับน้ำนมวัวพบว่าไม่มี D.H.A. เป็นต้น
ผู้ที่รับประทานเนื้อปลายังได้รับไวตามินบี 1 บี 2 ในอะซีนและเกลือแร่ ซึ่งได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส รวมทั้งธาตุเหล็กและไอโอดีด้วย นอกจากนั้นเนื้อปลายังมีกาก หรือเส้นใย (Fiber) น้อยทำให้ย่อยได้ง่าย เหมาะสำหรับทารกและเด็ก หรือแม้ในผู้ใหญ่ ที่มีระบบการย่อยอาหารที่ผิดปกติมาก
ดังนั้น ถ้าสามารถเลือกได้ ควรเลือกรับประทานปลาให้มาก